เตาหลอมเศษอลูมิเนียมแบบ Side Well สำหรับเศษอลูมิเนียม
เตาเผานี้ใช้โครงสร้างห้องคู่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า แยกห้องทำความร้อนออกจากห้องป้อน การจัดวางที่ล้ำสมัยนี้ช่วยให้การนำความร้อนมีประสิทธิภาพโดยการให้ความร้อนทางอ้อมแก่ของเหลวอะลูมิเนียม พร้อมอำนวยความสะดวกในการกำหนดพื้นที่ป้อนแยกกัน การเพิ่มระบบกวนแบบกลไกยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแลกเปลี่ยนความร้อนระหว่างวัสดุอะลูมิเนียมที่เย็นและร้อน ทำให้หลอมเหลวได้โดยไม่เกิดเปลวไฟ ช่วยเพิ่มอัตราการนำโลหะกลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างมีนัยสำคัญ และรับประกันสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น
จุดเด่นหลักอยู่ที่ระบบป้อนวัสดุด้วยเครื่องจักร ซึ่งช่วยลดภาระงานแรงงานคนได้อย่างมาก โครงสร้างเตาหลอมที่ได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยขจัดเศษตะกรันตกค้างในการทำความสะอาด และรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานให้สะอาด กระบวนการกักเก็บของเหลวแม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ช่วยรักษาระดับของเหลวในบ่อหลอมโลหะได้อย่างยั่งยืน เพิ่มประสิทธิภาพการหลอมโลหะได้มากกว่า 20% และลดอัตราการสูญเสียจากการเผาไหม้ให้ต่ำกว่า 1.5% คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบการเผาไหม้แบบฟื้นฟูที่เป็นทางเลือกสามารถเพิ่มประสิทธิภาพความร้อนได้มากกว่า 75% ควบคุมอุณหภูมิก๊าซไอเสียให้ต่ำกว่า 250℃ และลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ลง 40% ตอบสนองข้อกำหนดที่เข้มงวดสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในสาขาอุตสาหกรรมปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเทียบกับเตาเผาแบบสะท้อนกลับแบบดั้งเดิม อุปกรณ์นี้มีข้อได้เปรียบทางเทคนิคมากมาย: เทคโนโลยีการหลอมทางอ้อมช่วยลดการสัมผัสโดยตรงระหว่างวัสดุอลูมิเนียมและเปลวไฟ และลดการสูญเสียจากออกซิเดชันและการเผาไหม้ลง 30%; อุปกรณ์กวนแบบไดนามิกช่วยรับประกันการกระจายอุณหภูมิของของเหลวอลูมิเนียมอย่างสม่ำเสมอ (โดยมีความแตกต่างของอุณหภูมิเพียง ± 5 ℃) และเพิ่มอัตราการหลอมเหลวขึ้น 25%; การกำหนดค่าแบบโมดูลาร์รองรับการติดตั้งเตาเผาเก็บความร้อนในระยะหลัง ช่วยให้โรงงานมีเส้นทางการอัปเกรดประสิทธิภาพพลังงานที่มีต้นทุนต่ำ
เตาหลอมแบบหลุมด้านข้างสองห้องนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีการหลอมอะลูมิเนียม ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัย จึงเกิดความสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างประสิทธิภาพ คาร์บอนต่ำ และความคุ้มค่า เมื่อเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านการใช้พลังงานและการปกป้องสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีนี้จึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่ากระบวนการแบบดั้งเดิม การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรต่างๆ โดดเด่นในการแข่งขันในตลาดเท่านั้น แต่ยังช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสู่อนาคตของการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย





